ในช่วงเวลาที่หลายคนเริ่มหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพ ศาสตร์การแพทย์แผนจีนถือเป็นหนึ่งในศาสตร์ที่กำลังได้รับความสนใจและความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งสมุนไพรจีนนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญของศาสตร์แพทย์แผนจีน ที่มีสรรพคุณและประโยชน์อย่างมากมาย เมื่อเลือกรับประทานให้เหมาะสม จะช่วยปรับสมดุลให้กับร่างกาย ไม่เพียงเป็นยาที่ช่วยรักษาโรคและบำบัดอาการต่างๆ เท่านั้น สมุนไพรจีนยังช่วยบำรุงเลือดลม ส่งเสริมการทำงานของอวัยวะ ซึ่งช่วยบำรุงร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และยังช่วยป้องกันโรคต่างๆ ไดั
จนหลายๆคนเริ่มสงสัยว่า หากไม่ได้เจ็บป่วยอะไร แต่อยากบำรุงร่างกายด้วยสมุนไพรจีนได้ไหม? บทความนี้จะพาคุณไปหาคำตอบเกี่ยวกับการรับประทานสมุนไพรจีน พร้อมทำความเข้าใจว่า สมุนไพรจีนเหมาะกับใคร ใช้เมื่อไร ควรเลือกแบบไหน และควรระวังอะไรบ้าง เพื่อให้การบำรุงร่างกายด้วยธรรมชาตินั้นเกิดประโยชน์ได้สูงสุด
สมุนไพรจีนเป็นมากกว่ายารักษาโรค
ตามศาสตร์แพทย์แผนจีน สมุนไพรไม่ได้มีไว้สำหรับผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการบำรุงร่างกาย ป้องกันโรค และปรับสมดุลของลมปราณในร่างกาย หรือที่เรียกว่า พลังงานชี่ (Qi)
การรักษาในแนวทางจีนนั้นจะเน้นการดูแล “ก่อนที่ปัญหาจะเกิด” ซึ่งเป็นแนวคิดที่เหมาะกับการดูแลสุขภาพในยุคปัจจุบัน ที่เต็มไปด้วยความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ การทานอาหารไม่สมดุล และสภาพแวดล้อมหลากหลายที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอลงโดยไม่รู้ตัว แม้จะไม่มีโรคอะไรที่แสดงอาการชัดเจน แต่ร่างกายของเราก็มีการเสื่อมถอยตามกาลเวลา เหมือนรถที่ใช้งานทุกวัน หากไม่มีการดูแลและซ่อมบำรุงรักษา ก็ย่อมเสื่อมลงเช่นกัน
ในแพทย์แผนจีน การดูแลร่างกายเป็นเรื่องของ “การป้องกันล่วงหน้า” ด้วยการคงความสมดุลของพลังงานชี่หรือลมปราณ ที่ช่วยส่งเสริมให้ระบบหมุนเวียนเลือดและระบบอวัยวะต่างๆ ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพต่อเนื่อง ลดโอกาสเจ็บป่วยในอนาคต

สมุนไพรจีนบำรุงร่างกายที่หาได้ง่ายและเหมาะกับคนทั่วไป
หากคุณไม่ได้มีความเจ็บป่วย หรือมีโรคประจำตัวอะไร แต่อยากเริ่มบำรุงร่างกายด้วยสมุนไพรจีน สามารถเริ่มต้นจากสมุนไพรทั่วไป ที่ปลอดภัย เช่น
- โกจิเบอร์รี่ (เก๋ากี้)
โกจิเบอร์รี่ (Goji berry) , wolfberry หรือ Lycium fruit เป็นผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่ ผลสีแดงอมส้ม มีขนาดเล็ก ถูกนำมาใช้ในเป็นยาสมุนไพรตามศาสตร์แพทย์แผนจีนมาอย่างยาวนานกว่า 2,000 ปี โดยเก๋ากี้นั้นมีสรรพคุณมากมายและยังมีคุณค่าโภชนาการที่สูงมาก โดยมีกรดอะมิโน 19 ชนิดและแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการรวมกว่า 21 ชนิด ซึ่งช่วยบำรุงตับและไต เสริมสายตา และช่วยให้ผิวพรรณสดใสได้
- หลินจือ
หลินจือหรือเห็ดหลินจือ (Lingzhi mushroom, Reishi mushroom) มีลักษณะของหมวกเห็ดเป็นทรงครึ่งวงกลมหรือรูปไต มีความมันเงา เป็นสมุนไพรตีนที่ใช้เพื่อการรักษาตามศาสตร์แพทย์แผนจีนมานานถึง 4,000 ปี โดยมีสารอาหารและสารสำคัญอยู่ภายในมากมาย เช่น ไตรเทอร์พีนอยด์ (Triterpenoid) พอลีแซ็กคาไรด์ (Polysaccharide) เจอร์เมเนียม (Germanium) และนิวคลีโอไทด์(Nucleotide) ซึ่งหลินจือนั้นมีมากกว่า 100 สายพันธุ์ แต่ที่ได้รับความนิยมและมีสรรพคุณที่ดี คือ สายพันธุ์สีแดง หรือเห็ดหลินจือแดง หรือกาโนเดอร์มา ลูซิดัม (Ganoderma lucidum) เมื่อทานหลินจือจะช่วยบำรุง 5 อวัยวะหลัก (ตับ ปอด หัวใจ ม้าม ไต) เสริมภูมิคุ้มกัน ขับสารพิษ ลดความเครียด ช่วยให้นอนหลับดีขึ้น
- เปลือกส้มเขียวหวานแห้ง (เฉินผี)
เฉินผี หรือผิวส้มจีน (Chenpi, Dried Tangerine Peel, Citri Reticulatae Pericarpium คือ เปลือกผลสุกแห้งของพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Citrus reticulata Blanco เป็นสมุนไพรจีนชนิดหนึ่งที่มีลักษณะภายนอกเป็นแผ่นฉีกหลายแฉกฐานเชื่อมติดกัน รูปร่างไม่แน่นอน ผิวด้านนอกสีแดงอมส้มหรือน้ำตาลอมแดง มีรอยย่นเล็ก ๆ ซึ่งเกิดจากกรรมวิธีในการลอกเอาเปลือกผลสุก หั่นเป็นชิ้น นำมาตากให้แห้งหรืออบที่อุณหภูมิต่ำจนแห้งจนได้เป็นตำรับยาจีน โดยมีสรรพคุณและคุณประโยชน์มากมาย เช่น ช่วยย่อยอาหาร ลดอาการแน่นท้อง ปรับสมดุลลมในร่างกาย
- ชิแซนดร้า (โหงวบี่จี้)
ชิแซนดร้า (Schizandra Berry) หรือ Wu Wei Zi เป็นสมุนไพรจีนที่เป็นที่รู้จักกันมากว่าพันปี มีลักษณะเป็นผลสีแดงขนาดเล็ก เป็นที่นิยมในประเทศแถบเอเชียโดยมีชื่อเรียกต่างๆ กันไป เช่น โกมิชิ (gomishi) ในภาษาญี่ปุ่น omija (โอมิจา) ในภาษาเกาหลี และWu Wei Zi (แปลว่า ผลไม้ห้ารส) ในภาษาจีน เนื่องจากมีรสชาติพื้นฐานทั้ง 5 รส ได้แก่ เปรี้ยว หวาน ขม ฉุน และเค็ม ซึ่งมีสรรพคุณในการช่วยรักษาสมดุลพลังชี่ เสริมพลังชีวิต เพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย

ใช้สมุนไพรให้เหมาะกับแต่ละบุคคล คือหัวใจของแพทย์แผนจีน
แม้สมุนไพรเหล่านี้จะมาจากธรรมชาติและมีความปลอดภัย แต่การเลือกใช้ให้เหมาะสมกับ “ธาตุร่างกาย” และ “สภาวะปัจจุบัน” ของแต่ละคนเป็นสิ่งสำคัญมาก
เพราะหากใช้ผิดประเภท หรือเกินความจำเป็น อาจทำให้ร่างกายเสียสมดุลได้ รวมถึงยังอาจเกิดผลข้างเคียงขึ้นได้แม้จะมีผลข้างเคียงได้น้อยกว่ายาแผนปัจจุบัน แต่เมื่อรับประทานสมุนไพรจีนแล้วเกิดอาการผิดปกติต่าง ๆ ควรหยุดรับประทานและปรึกษาแพทย์
การจะเลือกรับประทานสมุนไพรจีนเป็นประจำอย่างต่อเนื่องนั้นควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย เพราะหากเลือกรับประทานเองโดยไม่ได้คำนึงถึงธาตุร่างกาย สภาวะปัจจุบัน รวมถึงตัวยาอื่นๆ ที่รับประทานอยู่ด้วยแล้วก็อาจทำให้เกิดผลที่แย่ลงหรือส่งผลเสียต่อร่างกายได้
หากคุณมั่นใจว่าสุขภาพแข็งแรงดี และอยากเริ่มบำรุงจากภายใน สมุนไพรจีนถือเป็นตัวช่วยที่ดีมาก และสามารถรับประทานได้โดยไม่จำเป็นต้องมีอาการเจ็บป่วย เพราะสามารถรับประทานเพื่อบำรุงร่างกาย แต่ควรเลือกใช้ในปริมาณที่พอดี ไม่มากเกินไป ก่อนเริ่มรับประทานอย่างต่อเนื่องนั้นควรปรึกษาแพทย์แผนจีนหรือผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอ เพื่อความปลอดภัยและให้ได้รับประโยชน์สูงสุด และไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย เพราะไม่เช่นนั้นสมุนไพรจีนที่ถือเป็นยาชั้นดีก็อาจกลายเป็นพิษร้ายต่อร่างกายได้เช่นกัน
สำหรับใครที่สนใจการทานสมุนไพรจีน สามารถปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากวีเอส คลินิกได้ เรามีบริการทางการแพทย์แผนจีนแบบครบวงจร ตั้งแต่ สมุนไพรจีน ฝังเข็ม ครอบแก้ว นวดทุยหนา จัดกระดูก และการนวดทุยหนา โดยแพทย์แผนจีนที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญสูง พร้อมเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัย สนใจนัดหมายติดต่อแอดมินได้ทุกช่องทาง
VS Clinic วีเอส คลินิก แพทย์แผนจีนและกายภาพบำบัด
ติดต่อสอบถามและนัดหมาย
คลินิกกายภาพบำบัด (สาขารังสิต คลอง3)
เปิดบริการทุกวัน เวลา 9.00 – 20.00 น.
TEL: 082-798-9651
สาขาสำโรง
เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00 – 19.00 น.
โทร: 096-456-3599
สาขารังสิต คลอง 3 (คลินิกบ้านหมอวิมุต ชั้น 1)
เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00 – 20.00 น.
061-959-5592 (สาขารังสิต คลอง 3)
Line Official: @vsclinic