สาระความรู้

สมุนไพรจีน บำรุงร่ายกาย

ไม่ได้มีโรค แต่อยากทานสมุนไพรจีนได้ไหม?

ในช่วงเวลาที่หลายคนเริ่มหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพ ศาสตร์การแพทย์แผนจีนถือเป็นหนึ่งในศาสตร์ที่กำลังได้รับความสนใจและความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งสมุนไพรจีนนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญของศาสตร์แพทย์แผนจีน ที่มีสรรพคุณและประโยชน์อย่างมากมาย เมื่อเลือกรับประทานให้เหมาะสม จะช่วยปรับสมดุลให้กับร่างกาย ไม่เพียงเป็นยาที่ช่วยรักษาโรคและบำบัดอาการต่างๆ เท่านั้น สมุนไพรจีนยังช่วยบำรุงเลือดลม ส่งเสริมการทำงานของอวัยวะ ซึ่งช่วยบำรุงร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และยังช่วยป้องกันโรคต่างๆ ไดั  จนหลายๆคนเริ่มสงสัยว่า หากไม่ได้เจ็บป่วยอะไร แต่อยากบำรุงร่างกายด้วยสมุนไพรจีนได้ไหม? บทความนี้จะพาคุณไปหาคำตอบเกี่ยวกับการรับประทานสมุนไพรจีน พร้อมทำความเข้าใจว่า สมุนไพรจีนเหมาะกับใคร ใช้เมื่อไร ควรเลือกแบบไหน และควรระวังอะไรบ้าง เพื่อให้การบำรุงร่างกายด้วยธรรมชาตินั้นเกิดประโยชน์ได้สูงสุด สมุนไพรจีนเป็นมากกว่ายารักษาโรค ตามศาสตร์แพทย์แผนจีน สมุนไพรไม่ได้มีไว้สำหรับผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการบำรุงร่างกาย ป้องกันโรค และปรับสมดุลของลมปราณในร่างกาย หรือที่เรียกว่า พลังงานชี่ (Qi)  การรักษาในแนวทางจีนนั้นจะเน้นการดูแล “ก่อนที่ปัญหาจะเกิด” ซึ่งเป็นแนวคิดที่เหมาะกับการดูแลสุขภาพในยุคปัจจุบัน ที่เต็มไปด้วยความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ การทานอาหารไม่สมดุล และสภาพแวดล้อมหลากหลายที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอลงโดยไม่รู้ตัว แม้จะไม่มีโรคอะไรที่แสดงอาการชัดเจน แต่ร่างกายของเราก็มีการเสื่อมถอยตามกาลเวลา เหมือนรถที่ใช้งานทุกวัน หากไม่มีการดูแลและซ่อมบำรุงรักษา ก็ย่อมเสื่อมลงเช่นกัน ในแพทย์แผนจีน การดูแลร่างกายเป็นเรื่องของ “การป้องกันล่วงหน้า” ด้วยการคงความสมดุลของพลังงานชี่หรือลมปราณ ที่ช่วยส่งเสริมให้ระบบหมุนเวียนเลือดและระบบอวัยวะต่างๆ ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพต่อเนื่อง ลดโอกาสเจ็บป่วยในอนาคต สมุนไพรจีนบำรุงร่างกายที่หาได้ง่ายและเหมาะกับคนทั่วไป หากคุณไม่ได้มีความเจ็บป่วย หรือมีโรคประจำตัวอะไร […]

ไม่ได้มีโรค แต่อยากทานสมุนไพรจีนได้ไหม? Read More »

กายภาพบำบัด อัลตราซาวด์ ultrasound

การกายภาพบำบัดด้วย Shockwave กับ Ultrasound ต่างกันอย่างไร?

โรคยอดฮิตของชาวออฟฟิศ ประชากรวัยทำงาน แน่นอนว่าหนีไม่พ้นออฟฟิศซินโดรม ที่มีสาเหตุมาจากการนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ การยืน เดิน หรือนั่งขับรถต่อเนื่องเป็นเวลานาน ไปจนถึงการยกของหนัก ทำให้เกิดอาการเจ็บและปวดเมื่อยตามร่างกายส่วนนั้นส่วนนี้ การทำกายภาพบำบัดเป็นหนึ่งตัวเลือกที่เป็นที่นิยม ซึ่งปัจจุบันก็มีทางเลือกในการรักษามากมาย โดยเฉพาะ Shockwave และ Ultrasound ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกเพื่อบรรเทาอาการปวดเรื้อรัง บทความนี้เราจะชวนคุณมารู้จักการกายภาพบำบัดทั้งสองประเภทว่าคืออะไร แตกต่างกันอย่างไร แล้วชาวปวดออฟฟิศซินโดรมอย่างเราจะเลือกรักษาด้วยวิธีไหนดี ไปดูกันเลย การกายภาพบำบัดด้วย Shockwave คืออะไร? การกายภาพบำบัด Shockwave เป็นวิธีการรักษาด้วยพลังงานจากคลื่นกระแทก โดยเป็นการส่งพลังงานผ่านคลื่นกระแทกเข้าไปในบริเวณเนื้อเยื่อที่มีอาการปวด หลักการของ Shockwave คือเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายเกิดอาการบาดเจ็บใหม่ตรงบริเวณกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นที่มีปัญหา เมื่อจุดที่บาดเจ็บได้รับพลังงานคลื่นกระแทกแล้ว กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นก็จะมีการซ่อมแซมใหม่ ส่งผลให้อาการปวดและอาการอักเสบลดลง เพิ่มการไหลเวียนในบริเวณดังกล่าว เครื่อง Shockwave นี้เป็นเครื่องมือที่ผ่านการรับรองจาก FDA สหรัฐอเมริกาและองค์การอาหารและยาในประเทศไทย จึงมีความปลอดภัยสูง Radial Shockwave เป็นคลื่นกระแทกที่กระจายวงกว้าง สามารถใช้เพื่อรักษาบริเวณเนื้อเยื่ออ่อน กล้ามเนื้อ และเส้นเอ็นโดยที่ไม่ต้องผ่าตัด พลังงานของคลื่นกระแทกจะลดลงเรื่อย ๆ ตามความลึกของเนื้อเยื่อ ไม่มีผลกระทบที่ร้ายแรงถึงชั้นกระดูก  การกายภาพบำบัดด้วย Ultrasound คืออะไร? การกายภาพบำบัดด้วยคลื่นเสียง Ultrasound

การกายภาพบำบัดด้วย Shockwave กับ Ultrasound ต่างกันอย่างไร? Read More »

ดูแลสุขภาพ แพทย์แผนจีน

การดูแลสุขภาพง่าย ๆ 13 อย่าง ด้วยตัวเอง ตามศาสตร์แพทย์แผนจีน 

ในโลกปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบและรวดเร็ว ทำให้การดูแลสุขภาพนั้นกลายเป็นเรื่องยาก เพราะต้องใช้ทั้งความใส่ใจ ทรัพยากรทางด้านเวลาและเงิน รวมถึงการปรับพฤติกรรมหลายอย่าง แต่ในความเป็นจริงแล้ว “สุขภาพที่ดี” สามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ จากตัวเรา ซึ่งศาสตร์การแพทย์แผนจีนนั้นเชื่อว่าร่างกายที่สมดุลคือกุญแจที่นำไปสู่การมีสุขภาพที่ดี โดยเน้นในการปรับให้ร่างกายเข้าสู่สมดุลด้วยวิธีทางธรรมชาติ และยังช่วยป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ดี  วันนี้ วีเอส คลินิก จะพาคุณไปรู้จักกับ 13 วิธีง่าย ๆ ในการดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง ตามแนวทางของแพทย์แผนจีน ที่คุณสามารถเริ่มต้นได้ทันทีในชีวิตประจำวัน บางอย่างใช้เวลาแค่ไม่กี่นาที แต่ให้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างยั่งยืน ศาสตร์การแพทย์แผนจีนกับการเชื่อมโยงกับธรรมชาติ ศาสตร์การแพทย์แผนจีน หรือ TCM (Traditional Chinese Medicine) เป็นศาสตร์ทางการแพทย์ที่มีอายุยาวนานมากว่า 1,000 ปี ที่ยึดหลักในการรักษาแบบองค์รวม โดยเน้นไปที่ความสมดุลและการไหลเวียนของพลังงานชีวิตหรือลมปราณ ที่เรียกว่า ชี่ (Qi) ที่มีการหมุนเวียนและหล่อเลี้ยงไปทั่วร่างกาย ซึ่งสอดคล้องไปกับความคิดแบบหยินหยาง และทฤษฎีของธาตุทั้งห้าด้วย  เมื่อร่างกายมีการไหลเวียนของพลังงานชี่ได้ดี และมีความสมดุลนั้นถือเป็นหัวใจสำคัญของสุขภาพที่ดี แต่หากภายในร่างกายมีการไหลเวียนพลังงานดังกล่าวที่ติดขัดก็จะทำให้ร่างกายเกิดความเจ็บป่วยต่างๆ นั่นเอง นอกจากนี้การแพทย์แผนจีนยังมีความเชื่อมโยงกับธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง เพราะใช้ความกลมกลืนกับธรรมชาติและการใช้องค์ประกอบจากธรรมชาติเป็นแนวทางหลักในการรักษา  13 วิธีธรรมชาติที่สามารถทำได้ด้วยตนเอง 1. กรอกตาไปมา ซ้ายขวาขึ้นลง

การดูแลสุขภาพง่าย ๆ 13 อย่าง ด้วยตัวเอง ตามศาสตร์แพทย์แผนจีน  Read More »

สมุนไพรจีน บำรุงร่างกาย ป้องกันโรค

สุขภาพดีจากภายในด้วยสมุนไพรจีนจากธรรมชาติ

ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพแบบองค์รวมมากขึ้น แพทย์แผนจีนได้กลายมาเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ ไม่เพียงแค่เป็นวิธีทางในการรักษาและบำบัดโรคเท่านั้น แต่ศาสตร์แพทย์แผนจีนยังสามารถใช้ในการดูแลสุขภาพได้อย่างครอบคลุม โดยศาสตร์แพทย์แผนจีนนั้นเน้นไปที่การปรับสมดุลร่างกายจากภายใน ด้วยหลักของ “หยิน-หยาง” และการไหลเวียนของพลังงานชีวิต หรือ “ชี่” หนึ่งในหัวใจสำคัญของศาสตร์แพทย์จีน คือ “สมุนไพรจีน” ที่ส่วนใหญ่นั้นมาจากพืชในส่วนของราก ลำต้น ใบ และผล รวมไปถึงส่วนประกอบของสัตว์และแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีสรรพคุณเฉพาะตัว สมุนไพรจีนที่มีมากกว่า 5,000 ชนิดนั้นยังได้ผ่านการวิจัยมาแล้วหลายพันปี และเหมาะกับการนำมาดูแลสุขภาพ ช่วยฟื้นฟูร่างกาย เสริมภูมิต้านทาน และป้องกันโรคได้อย่างยั่งยืน  บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับสมุนไพรจีนยอดนิยม พร้อมเคล็ดลับการดูแลสุขภาพแบบง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน เพื่อให้สุขภาพดี เริ่มต้นได้จากธรรมชาติรอบตัว หลักการของแพทย์แผนจีนในการดูแลสุขภาพ ตามศาสตร์แพทย์แผนจีนเชื่อว่า ทุกสิ่งในธรรมชาติ รวมถึงภายในร่างกายของเราประกอบไปด้วย 5 ธาตุ ตามทฤษฎีปัญจธาตุ คือ ไม้ ไฟ ดิน ทอง และนํ้า โดยมีความเชื่อว่า ปัญจธาตุเป็นองค์ประกอบอยู่ในสิ่งต่าง ๆ ทำให้สิ่งทั้งหลายมีลักษณะ คุณสมบัติ ปฏิกิริยา และรูปร่างต่าง ๆ กันไป

สุขภาพดีจากภายในด้วยสมุนไพรจีนจากธรรมชาติ Read More »

ฝึกพูด ผู้ป่วยอัมพาต

วิธีฝึกพูดในผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกเบื้องต้น

อีกหนึ่งปัญหาที่มักเจอในผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกคือภาวะบกพร่องด้านการสื่อสาร ซึ่งภาวะนี้ส่งผลให้เกิดความยากลำบากในการใช้ชีวิตประจำวันในเรื่องของการสื่อสารด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการพูด การอ่าน การเขียน การทำความเข้าใจสาร โดยผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกบางคนอาจสามารถพูดได้แค่ประโยคสั้น ๆ ไม่สามารถเรียบเรียงประโยคให้ผู้ฟังเข้าใจได้ ใช้คำไม่เหมาะสม พูดไม่จบประโยค พูดไม่มีความหมาย ไปจนถึงไม่สามารถพูดได้ ซึ่งอาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นแตกต่างกันไปในพูดป่วยแต่ละคน และบางคนก็อาจมีหลายอาการเกิดร่วมกันได้ ปัญหาด้านการสื่อสารที่สามารถพบได้ในผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีก โดยหลัก ๆ แล้วเราสามารถแบ่งความผิดปกติด้านการสื่อสารในผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกได้เป็น 2 ประเภท ซึ่งผู้ป่วยอาจมีอาการเพียงอย่างเดียวหรือมีอาการหลายอย่างรวมกันก็ได้ การควบคุมกล้ามเนื้อในการพูดผิดปกติ (Dysarthria) เป็นภาวะที่ผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกพูดไม่ชัดเพราะเกิดจากความบกพร่องของเส้นประสาทที่มีหน้าที่ควบคุมกล้ามเนื้อของอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการพูดและสื่อสาร โดยกล้ามเนื้ออาจเกิดการอ่อนแรง เกร็ง หรือทำงานได้ไม่ประสานสัมพันธ์กัน ส่งผลให้ผู้ป่วยพูดไม่ชัด ไม่มีแรงพูด พูดเสียงเบา พูดแล้วเสียงขึ้นจมูก เสียงแหบ เสียงอู้อี้ หรือพูดยานคางช้ามากกว่าปกติ การควบคุมโปรแกรมการพูดผิดปกติ (Apraxia) เป็นภาวะที่ผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกพูดสื่อสารไม่ได้ เนื่องมาจากความบกพร่องของกลไกประสาทที่ควบคุมอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการพูด หรือความบกพร่องของสมองส่วนที่ทำหน้าที่ควบคุมโปรแกรมการพูด ส่งผลให้เมื่อฟังคำพูดของคนอื่นแล้วผู้ป่วยอาจไม่เข้าใจ หรือเมื่อผู้ป่วยต้องพูดเองจะไม่สามารถพูดได้เพราะนึกคำไม่ออก เป็นต้น ขั้นตอนการฝึกพูดในผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกที่มีปัญหาด้านการสื่อสาร นักกายภาพบำบัดให้ข้อมูลเกี่ยวกับการฝึกพูดเบื้องต้นให้กับผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีก ฝึกการเคลื่อนไหวของอวัยวะที่เกี่ยวกับการพูด โดยมีนักกายภาพบำบัดแสดงให้ดูเป็นตัวอย่าง ฝึกให้ผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกเคลื่อนไหวของอวัยวะที่เกี่ยวกับการพูด ฝึกให้ผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกพูดตามคำหรือพยัญชนะที่นักกายภาพบำบัดกำหนดให้ การฝึกพูดในผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกที่มีปัญหาด้านการสื่อสารควรฝึกจากระดับที่ง่ายก่อน แล้วจึงเพิ่มระดับความยากขึ้นเรื่อย ๆ โดยจะต้องมีนักกายภาพบำบัดประเมินผลร่วมด้วยทุกครั้งว่าผู้ป่วยสามารถฝึกพูดได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพมาก และการฝึกพูดแต่ละครั้งควรมีระยะเวลาประมาณ

วิธีฝึกพูดในผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกเบื้องต้น Read More »

ชวนดูประโยชน์ของการนวดทางการกีฬา (Sport Therapeutic Massage)

การนวดถือเป็นวิธีการผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่เป็นตัวเลือกของใครหลายๆ คน เพราะการนวดนั้นให้ความผ่อนคลาย สบายตัว และยังช่วยบรรเทาอาการปวดได้อีกด้วย ซึ่งศาสตร์การนวดนั้นมีหลายแขนง ไม่ว่าจะเป็น การนวดแผนไทย การนวดน้ำมันอโรมา การนวดจับเส้นหรือรีดเส้น แต่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้จักกับการนวดทางกีฬา หรือ Sport Therapeutic Massage ว่าคืออะไร แตกต่างกับการนวดแบบอื่นอย่างไร จะต้องเป็นนักกีฬาเท่านั้นหรือไม่ที่เหมาะกับการนวดประเภทนี้  วันนี้ วีเอส คลินิกจะพาไปทำความรู้จักกับการนวดทางการกีฬากันอย่างเจาะลึก พร้อมแนะนำประโยชน์ของการนวดทางกีฬาและเรื่องอื่นๆที่คุณควรรู้ การนวดทางการกีฬา (Sport Therapeutic Massage) คืออะไร? การนวดทางการกีฬา (Sport Therapeutic Massage) หรือเรียกสั้นๆ ว่า Sport Massage คือ การนวดรักษาทางการแพทย์ที่มีเทคนิคเฉพาะในการนวด เพื่อบรรเทาอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และข้อต่อ จากการเล่นกีฬาหรือการออกกำลังกาย และสามารถใช้ในการฟื้นฟูสภาพร่างกายหลังออกกำลังกาย หรือผู้ที่มีอาการปวดเมื่อยหรือบาดเจ็บจากอุบัติเหตุต่างๆ ได้  การนวดทางการกีฬา มักใช้นวดเพื่อบำบัดให้กับนักกีฬาโดยเฉพาะ สามารถนวดได้ทั้งก่อนและหลังการเล่นกีฬา เพื่อช่วยป้องกันการบาดเจ็บ และฟื้นฟูสภาพร่างกายได้ แต่การนวดประเภทนี้ก็สามารถนวดให้กับบุคคลทั่วไปที่มีการใช้งานกล้ามเนื้อหนัก ได้เช่นกัน โดยวิธีการนวดที่เน้นเรื่องกล้ามเนื้อโดยเฉพาะ ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายจากความตึงเครียด ซึ่งช่วยกระตุ้นให้เกิดการไหลเวียนเลือดที่ดีขึ้นได้ และบรรเทาอาการเจ็บปวดได้นั่นเอง

ชวนดูประโยชน์ของการนวดทางการกีฬา (Sport Therapeutic Massage) Read More »

โสมคน 人参 (หยิ่งเซียม)

ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Panax ginseng C.A. Mey. วงศ์ Araliaceae ลักษณะ: สีขาวซีด มีรสหวาน ขมเล็กน้อย มีคุณสมบัติเป็นกลาง ฤทธิ์ยา: เคลื่อนตัวเข้าเส้นลมปราณหัวใจ ปอด และม้าม สรรพคุณ: สามารถบำรุงชี่ ฟื้นฟูการเต้นของชีพจร บำรุงม้ามและปอด ทำให้จิตใจสงบ ช่วยให้ชุ่มคอ เหมาะสำหรับผู้ที่ร่างกายอ่อนเพลียหมดแรง มือเท้าเย็น ชีพจรเต้นเบา ทานอาหารได้น้อยเนื่องจากม้ามพร่อง ไอหอบเนื่องจากปอดพร่อง กระหายน้ำเนื่องจากสูญเสียน้ำมาก หรือผู้ที่ป่วยเป็นเวลานาน ไม่มีแรง ขี้ตกใจ ใจสั่น นอนไม่หลับ สมรรถภาพทางเพศเสื่อม มดลูกเย็น กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง ภาวะช็อกจากหัวใจ (Cardiogenic Shock) เป็นต้น คุณประโยชน์ของโสมคน 人参 (หยิ่งเซียม) ป้องกันการอ่อนเพลีย อ่อนล้า ทำให้ร่างกายแข็งแรง อายุยืนยาว ซึ่งการรับประทานโสมคนต้องระวังไฟกำเริบขึ้นด้านบน ทำให้ความดันโลหิตสูง นอนไม่หลับ เวียนศีรษะ ในทางปฏิบัติต้องเริ่มรับประทานในขนาดน้อยๆ ให้ร่างกายปรับตัวก่อนแล้วจึงค่อยเพิ่มขนาด หรืออาจใช้ร่วมกับสมุนไพรจีน ม่ายตงที่มีฤทธิ์เสริมยินลดความร้อนของโสมคน ในผู้ที่รับประทานไปเพียงเล็กน้อยหากเกิดอาการร้อนด้านบน

โสมคน 人参 (หยิ่งเซียม) Read More »

ถังเช่า

“ถั่งเช่า” หรือที่รู้จักกันว่าเป็น “ไวอากร้าแห่งเทือกเขาหิมาลัย” หรือ ตังถั่งเช่า หรือ ตังถั่งแห่เช่า แปลเป็นไทยว่า “ฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้า” หรือที่เรียกกันว่า “หญ้าหนอน” ทั้งนี้เพราะยาสมุนไพรชนิดนี้ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นตัวหนอน คือ ตัวหนอนของผีเสื้อ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Hepialus armoricanus Oberthiir และบนตัวหนอนมีเห็ดชนิดหนึ่งมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่าCordyceps sinensis (Berk.) Saec.[1] หนอนชนิดนี้ในฤดูหนาวจะฝังตัวจำศีลอยู่ใต้ดินภูเขาหิมะ เมื่อน้ำแข็งเริ่มละลายสปอร์เห็ดจะพัดไปกับน้ำแข็งที่ละลายแล้วไปตกที่พื้นดิน จากนั้นตัวหนอนเหล่านี้ก็จะกินสปอร์ และเมื่อฤดูร้อนสปอร์ก็เริ่มเจริญเติบโตเป็นเส้นใยโดยอาศัยการดูดสารอาหารและแร่ธาตุจากตัวหนอนนั้น เส้นใยงอกออกจากท้องของตัวหนอน และงอกออกจากปากของมัน เห็ดเหล่านี้ต้องการแสงอาทิตย์มันจึงงอกขึ้นสู่พื้นดิน รูปลักษณะภายนอกคล้ายไม้กระบอก ส่วนตัวหนอนเองก็จะค่อยๆ ตายไป อยู่ในลักษณะของหนอนตายซาก ฉะนั้น “ถั่งเช่า” ที่ใช้ทำเป็นยาก็คือ ตัวหนอนและเห็ดที่แห้งแล้ว[1] องค์ประกอบทางเคมี :  ถั่งเช่าอุดมไปด้วยสารต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ ได้แก่ โพลีแซคคาไรด์ (galactomannan), นิวคลีโอไทด์ (adenosine, cordycepin), Cordycepic acid, กรดอะมิโน

ถังเช่า Read More »

โสมอเมริกา

โสมอเมริกา มีต้นกำเนิดจากทวีปอเมริกาเหนือ โดยถูกค้นพบและนำมาใช้ประโยชน์ทางยามาตั้งแต่ราชวงศ์ชิงของจีนช่วงคริสตศักราชที่ 1694 หรือ ประมาณ 300 ปีก่อน แล้วจึงค่อยๆ แพร่หลายเป็นที่นิยมบริโภคเพิ่มมากขึ้นทั้งในแถบทวีปเอเชียและอเมริกา โดยมีการประมาณการว่า ประชากรชาวอเมริกันกว่า 6ล้านคนนิยมบริโภคผลิตภัณฑ์จากโสมเป็นประจำ สรรพคุณในทางการแพทย์แผนโบราณของโสมอเมริกานับว่ามีความแตกต่างจากโสมเอเชีย (Panax ginseng) โดยที่โสมเอเชียนั้นถูกจัดเป็นยาร้อนหรือยาที่เสริมธาตุ “หยาง” ให้ร่างกาย ในขณะที่โสมอเมริกา จะถูกจัดให้เป็นยาเย็นหรือยาที่ช่วยเสริมธาตุ “หยิน” ให้กับร่างกาย โสมอเมริกัน (เอียเซียม) เป็นโสมที่พบมากในอเมริกา แคนนาดา และฝรั่งเศส มีรสหวาน ขมเล็กน้อย คุณสมบัติ : เย็น ฤทธิ์ยาสามารถเคลื่อนตัวเข้าสู่เส้นลมปราณหัวใจ ปอดและไต(1) สรรพคุณ: สามารถบำรุงชี่ บำรุงหยิน คลายร้อน ทำให้ชุ่มคอ เหมาะสำหรับผู้ที่ชี่และหยินพร่อง ร้อนใน ไอหอบ มีเสมหะเป็นเลือด กระหายน้ำง่าย ปากแห้งคอแห้ง เป็นต้น(2) ซึ่งส่งผลให้ร่างกายอยู่ในภาวะสงบ และมีสมาธิ อีกทั้งยังบำรุงร่างกายด้วย การที่โสมสามารถให้ประโยชน์ต่อร่างกายในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฤทธิ์ร้อนหรือเย็นตามความเชื่อของแนวคิดการแพทย์แผนโบราณจีนนั้น สืบเนื่องมาจากโสมประกอบด้วยสารธรรมชาติที่มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาที่มีชื่อว่า จินเซ็นโนไซด์ (Ginsenosides)

โสมอเมริกา Read More »