ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพแบบองค์รวมมากขึ้น แพทย์แผนจีนได้กลายมาเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ ไม่เพียงแค่เป็นวิธีทางในการรักษาและบำบัดโรคเท่านั้น แต่ศาสตร์แพทย์แผนจีนยังสามารถใช้ในการดูแลสุขภาพได้อย่างครอบคลุม โดยศาสตร์แพทย์แผนจีนนั้นเน้นไปที่การปรับสมดุลร่างกายจากภายใน ด้วยหลักของ “หยิน-หยาง” และการไหลเวียนของพลังงานชีวิต หรือ “ชี่”
หนึ่งในหัวใจสำคัญของศาสตร์แพทย์จีน คือ “สมุนไพรจีน” ที่ส่วนใหญ่นั้นมาจากพืชในส่วนของราก ลำต้น ใบ และผล รวมไปถึงส่วนประกอบของสัตว์และแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีสรรพคุณเฉพาะตัว สมุนไพรจีนที่มีมากกว่า 5,000 ชนิดนั้นยังได้ผ่านการวิจัยมาแล้วหลายพันปี และเหมาะกับการนำมาดูแลสุขภาพ ช่วยฟื้นฟูร่างกาย เสริมภูมิต้านทาน และป้องกันโรคได้อย่างยั่งยืน
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับสมุนไพรจีนยอดนิยม พร้อมเคล็ดลับการดูแลสุขภาพแบบง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน เพื่อให้สุขภาพดี เริ่มต้นได้จากธรรมชาติรอบตัว
หลักการของแพทย์แผนจีนในการดูแลสุขภาพ
ตามศาสตร์แพทย์แผนจีนเชื่อว่า ทุกสิ่งในธรรมชาติ รวมถึงภายในร่างกายของเราประกอบไปด้วย 5 ธาตุ ตามทฤษฎีปัญจธาตุ คือ ไม้ ไฟ ดิน ทอง และนํ้า โดยมีความเชื่อว่า ปัญจธาตุเป็นองค์ประกอบอยู่ในสิ่งต่าง ๆ ทำให้สิ่งทั้งหลายมีลักษณะ คุณสมบัติ ปฏิกิริยา และรูปร่างต่าง ๆ กันไป รวมทั้งสาเหตุให้มีการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เกิดขึ้น นอกจากนี้ธาตุทั้ง 5 นั้นยังสัมพันธ์กับการทำงานของอวัยวะตันทั้ง 5 ได้แก่ ตับ หัวใจ ม้าม ปอด และไต ทำให้การจะมีสุขภาพที่ดีตามหลักปัญจธาตุนั้นจะต้อง รักษาสมดุลของธาตุต่างๆ ในร่างกาย และให้อวัยวะตันนั้นสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพ ซึ่งอาหารและสมุนไพรจีนนั้นสามารถช่วยปรับสมดุลของธาตุ ช่วยให้ร่างกายมีความแข็งแรง สุขภาพดี และป้องกันโรคได้
นอกจากหลักปัญจธาตุแล้วแพทย์แผนจีนยังเชื่อว่าภายในร่างกายประกอบไปด้วยพลังงานชี่ (Qi) หรือลมปราณไหลเวียนอยู่ภายในร่างกายตลอดเวลา เมื่อพลังชี่ไม่สมดุล อาการเจ็บป่วยต่างๆ ก็จะเกิดขึ้น การใช้สมุนไพรจีนจึงมุ่งเน้นไปที่การปรับสมดุลของพลังชี่ โดยพิจารณาจากอาการของผู้ป่วย รวมถึงปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ เพศ ฤดูกาล และสภาพแวดล้อม
เมื่อสมดุลในร่างกายดี การทำงานของระบบต่าง ๆ ก็จะมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นระบบย่อยอาหาร หัวใจ ไต ตับ ไปจนถึงอารมณ์ ความรู้สึก และคุณภาพการนอนหลับ สมุนไพรจีนจึงไม่ได้เน้นแค่การรักษาเฉพาะจุด แต่คือการสร้าง “สุขภาพดีจากฐานราก”
สมุนไพรจีน กับการดูแลสุขภาพจากภายใน
สมุนไพรจีนได้ถูกนำมาใช้กับการแพทย์แผนจีนมาตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน โดยที่สมุนไพรจีนนั้นช่วยในการบำรุง เสริมภูมิคุ้มกัน และการป้องโรคได้ สมุนไพรจีนมีลักษณะเฉพาะตามทฤษฎี คือ การมี 4 ฤทธิ์ 5 รสชาติ ซึ่ง 4 ฤทธิ์ หมายถึง ลักษณะทางธรรมชาติทั้ง 4 ของยา ประกอบไปด้วย ฤทธิ์เย็น ร้อน อุ่น และค่อนข้างเย็น ส่วน 5 รสชาติของยา ประกอบด้วย เผ็ด เปรี้ยว หวาน ขม และเค็ม ทำให้สมุนไพรจีนแต่ละชนิดนั้นมีฤทธิ์และรสชาติที่แตกต่างกันไป ทำให้ผลในการรักษาจึงแตกต่างกันไปด้วย และสมุนไพรจีนยังสามารถช่วยปรับสมดุลของชี่และธาตุทั้ง 5 ให้ทำงานสอดคล้องกัน ลดอาการเจ็บป่วย และเสริมสร้างสุขภาพ สมุนไพรจีนแต่ละชนิดมีสรรพคุณเฉพาะตัว
ตัวอย่างสมุนไพรจีนที่น่าสนใจ
- หลินจือ (เห็ดหลินจือ) – บำรุงห้าอวัยวะหลัก ได้แก่ ตับ ปอด หัวใจ ม้าม กระเพาะ และไต
มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ขับสารพิษ ลดความเครียด ช่วยให้นอนหลับลึกขึ้น - ถั่งเช่า (Cordyceps) – ช่วยบำรุงปอดและไต โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจและระบบสืบพันธุ์
มีส่วนช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน เพิ่มพลังชี่ ลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด เหมาะสำหรับผู้ที่อ่อนเพลียหรือมีปัญหาฮอร์โมน - เห็ดหูหนูขาว / เห็ดหอม (ชิตาเกะ) – สมุนไพรที่อยู่ในรูปแบบของอาหารที่เราคุ้นเคย
อุดมไปด้วยสารโพลีแซคคาไรต์ ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ร่างกาย เสริมภูมิคุ้มกัน และช่วยชะลอวัย - เปลือกส้มเขียวหวานแห้ง (เฉินผี่) – มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ บำรุงระบบทางเดินอาหาร และช่วยให้ระบบไหลเวียนทำงานดีขึ้น

กินสมุนไพรจีนอย่างไรให้เหมาะสมและปลอดภัย
การกินสมุนไพรจีนให้ปลอดภัยอาจขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล รวมถึงเงื่อนไขสุขภาพและการใช้ชีวิตของแต่ละคน การทานสมุนไพรจีนให้เหมาะสมจะเป็นยา แต่หากทานมากเกินไปอาจกลายเป็นพิษได้ เพราะสมุนไพรบางชนิดมีฤทธิ์ร้อน บางชนิดมีฤทธิ์เย็น ซึ่งการรับประทานมากเกินไปอาจทำให้ร่างกายเสียสมดุลได้ การจะใช้สมุนไพรจีนเป็นประจำนั้นจึงควรต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์แผนจีน หรือควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์แผนจีน เพื่อความปลอดภัยในระยะยาว
ข้อควรระวังเบื้องต้นเกี่ยวกับการรับประทานสุมนไพรจีน มีดังนี้
- ควรปรึกษาแพทย์แผนจีนก่อนการทานสมุนไพรจีน และไม่ใช้พร่ำเพื่อหรือเกินความจำเป็น
- ควรใช้ให้เหมาะกับสุขภาพของตน เพราะสมุนไพรบางชนิดมีฤทธิ์แรง
- หญิงสตรีมีครรภ์ต้องใช้สมุนไพรจีนอย่างระมัดระวัง และควรปรึกษาแพทย์ เพราะสมุนไพรจีนบางชนิดอาจทำให้เกิดอันตรายต่อครรภ์ เช่น เช่น ปาโต๊ว (สลอด) เซียนหนิว เหยียนฮวา ซานหลิง ต้าจี๋ และกันสุ้ย ซึ่งเป้นสมุนไพรที่มีพิษมาก
- สมุนไพรบางชนิดไม่ควรใช้กับผู้ที่มีอาการหรือโรคประจำตัวบางประเภท
- ยาสมุนไพรบางชนิดห้ามใช้ร่วมกัน เพราะมีพิษรุนแรงที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
- ในผู้ป่วยโรคกระเพาะอาหารเมื่อกินตอนท้องว่างจะทำให้ระคายเคืองกระเพาะได้
- ห้ามกินอาหารบางประเภทขณะใช้ยาสมุนไพรจีน เช่น น้ำเย็น ของมัน ของคาว และอาหารรสจัด
- ควรหยุดกินทันทีเมื่อเกิดอาการแพ้ หรือความผิดปกติ
- ระวังการกินร่วมกับยาปฏิชีวนะหรือยาแผนปัจจุบัน ควรเว้นห่างกันอย่างน้อย 1 ชั่วโมง หรือบางชนิดห้ามใช้ร่วมกัน
สมุนไพรจีนเป็นทางเลือกที่ดีในการดูแลสุขภาพจากภายใน แต่ควรใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละคน หากสนใจใช้สมุนไพรจีน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ห่างไกลอันตรายและได้รับประโยชน์สูงสุดได้ในระยะยาว
สำหรับใครที่สนใจการทานสมุนไพรจีน สามารถปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากวีเอส คลินิกได้ เรามีบริการทางการแพทย์แผนจีนแบบครบวงจร ตั้งแต่ สมุนไพรจีน ฝังเข็ม ครอบแก้ว นวดทุยหนา จัดกระดูก และการนวดทุยหนา โดยแพทย์แผนจีนที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญสูง พร้อมเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัย สนใจนัดหมายติดต่อแอดมินได้ทุกช่องทาง
VS Clinic วีเอส คลินิก แพทย์แผนจีนและกายภาพบำบัด
ติดต่อสอบถามและนัดหมาย
คลินิกกายภาพบำบัด (สาขารังสิต คลอง3)
เปิดบริการทุกวัน เวลา 9.00 – 20.00 น.
TEL: 082-798-9651
สาขาสำโรง
เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00 – 19.00 น.
โทร: 096-456-3599
สาขารังสิต คลอง 3 (คลินิกบ้านหมอวิมุต ชั้น 1)
เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00 – 20.00 น.
061-959-5592 (สาขารังสิต คลอง 3)
Line Official: @vsclinic